Mixed Data between Social Subjects and Science Studies including any others.
header_imageHomeAbout UsArticlesServicesFAQQuantitativeResearchQuanlitativeResearchMixedMethodResearchMixedMethodResearch1Contact UsSection Layout 1 เปรียบเทียบความแตกต่างของการวิจัยเชิงปริมาณกับเชิงคุณภาพ ข้อแตกต่าง การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพ 1. แนวคิดพื้นฐาน - ปฏิฐานนิยม (Positivism) - ปรากฎการณ์นิยม(Phenomenology) 2. วัตถุประสงค์ - มุ่งวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม - ต้องการเข้าใจความหมาย กระบวนการความรู้สึกนึกคิดโดยเชื่อมโยงกับบริบทของสังคม 3. การกำาหนดสมมุติฐาน -กำาหนดล่วงหน้าก่อนทาการวิจัย - กำาหนดคร่าวๆพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ 4. การคัดเลือกตัวอย่าง - สุ่มโดยอาศัยการสุ่มชนิดที่ทราบโอกาสหรือความน่าจะเป็นที่ถูกเลือก (Probability) - สุ่มโดยอาศัยการสุ่มชนิดที่ไม่ทราบโอกาสหรือความน่าจะเป็นที่จะถูกเลือกเป็นตัวอย่าง (Non-probability sampling) 5. จำานวนตัวอย่าง - จำานวนมาก - จำานวนน้อย 6. ขอบเขตการวิจัย - ศึกษาในวงกว้าง โดยเลือกเฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่สุ่มมา - ศึกษาแนวลึกเฉพาะกลุ่มที่สนใจ 7. บทบาทของผู้วิจัย - แยกผู้วิจัยออกจากเรื่องที่ศึกษา - ผู้วิจัยเป็นเครื่องมือในการทาวิจัย 8. วิธีการเก็บข้อมูล - แบบสอบถาม - แบบสัมภาษณ์ - การสังเกต - การสัมภาษณ์เจาะลึก - การจัดสนทนากลุ่ม - การบันทึกประวัติชีวบุคคล 9. การวิเคราะห์ข้อมูล - วิเคราะห์เชิงปริมาณโดยใช้สถิติช่วย (Statistical analysis) - วิเคราะห์เชิงตรรกะเป็นหลักอาจมีการวิเคราะห์เชิงปริมาณช่วยเล็กน้อย (content analysis) 10. การรายงานผล - รายงานผลโดยอ้างอิงสถิติ (Report statistical analysis) - รายงานผลโดยอ้างอิงคาพูดหรือเรื่องราวจริงจากกลุ่มตัวอย่าง (Report rich narrative) 11. การสรุปผล -นำาไปใช้อ้างอิงแทนประชาการทั้งหมดได้ - ใช้อ้างอิงได้เฉพาะกลุ่ม 12. ทักษะของนักวิจัย - มีความสามารถทางสถิติ - มีความละเอียดอ่อนในการสังเกต เก็บรวบรวมข้อมูล และการตีความ
header_image
ตอบลบHome
About Us
Articles
Services
FAQ
QuantitativeResearch
QuanlitativeResearch
MixedMethodResearch
MixedMethodResearch1
Contact Us
Section Layout 1
เปรียบเทียบความแตกต่างของการวิจัยเชิงปริมาณกับเชิงคุณภาพ
ข้อแตกต่าง
การวิจัยเชิงปริมาณ
การวิจัยเชิงคุณภาพ
1. แนวคิดพื้นฐาน
- ปฏิฐานนิยม (Positivism)
- ปรากฎการณ์นิยม(Phenomenology)
2. วัตถุประสงค์
- มุ่งวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม
- ต้องการเข้าใจความหมาย กระบวนการความรู้สึกนึกคิดโดยเชื่อมโยงกับบริบทของสังคม
3. การกำาหนดสมมุติฐาน
-กำาหนดล่วงหน้าก่อนทาการวิจัย
- กำาหนดคร่าวๆพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์
4. การคัดเลือกตัวอย่าง
- สุ่มโดยอาศัยการสุ่มชนิดที่ทราบโอกาสหรือความน่าจะเป็นที่ถูกเลือก (Probability)
- สุ่มโดยอาศัยการสุ่มชนิดที่ไม่ทราบโอกาสหรือความน่าจะเป็นที่จะถูกเลือกเป็นตัวอย่าง
(Non-probability sampling)
5. จำานวนตัวอย่าง
- จำานวนมาก
- จำานวนน้อย
6. ขอบเขตการวิจัย
- ศึกษาในวงกว้าง โดยเลือกเฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่สุ่มมา
- ศึกษาแนวลึกเฉพาะกลุ่มที่สนใจ
7. บทบาทของผู้วิจัย
- แยกผู้วิจัยออกจากเรื่องที่ศึกษา
- ผู้วิจัยเป็นเครื่องมือในการทาวิจัย
8. วิธีการเก็บข้อมูล
- แบบสอบถาม
- แบบสัมภาษณ์
- การสังเกต
- การสัมภาษณ์เจาะลึก
- การจัดสนทนากลุ่ม
- การบันทึกประวัติชีวบุคคล
9. การวิเคราะห์ข้อมูล
- วิเคราะห์เชิงปริมาณโดยใช้สถิติช่วย
(Statistical analysis)
- วิเคราะห์เชิงตรรกะเป็นหลักอาจมีการวิเคราะห์เชิงปริมาณช่วยเล็กน้อย (content analysis)
10. การรายงานผล
- รายงานผลโดยอ้างอิงสถิติ (Report statistical analysis)
- รายงานผลโดยอ้างอิงคาพูดหรือเรื่องราวจริงจากกลุ่มตัวอย่าง (Report rich narrative)
11. การสรุปผล
-นำาไปใช้อ้างอิงแทนประชาการทั้งหมดได้
- ใช้อ้างอิงได้เฉพาะกลุ่ม
12. ทักษะของนักวิจัย
- มีความสามารถทางสถิติ
- มีความละเอียดอ่อนในการสังเกต เก็บรวบรวมข้อมูล และการตีความ