วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ข้อความดีที่สุดที่มนุษย์จะมอบแก่กัน

ข้อความทึ่ดีที่สุดที่มนุษย์จะมอบแก่กัน

พุทธ :ลัด สั้น ตรง
ทุกคนเป็นสัตว์โลก มาหลงยึดขันธ์ 5(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ว่าเป็นเรา จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ 31 ภพภูมิ(พรหม เทวดา มนุษย์ เปรต เดรัจฉาน นรก)
แต่การเกิดเป็นมนุษย์เกิดได้ยากเท่ากับการตรัสรู้เองของพระพุทธเจ้า ส่วนใหญ่สัตว์โลกไปอบายภูมิ(นรก เดรัจฉาน เปรต)นานมาก
จึงมีความเร่งด่วนต้องรู้ อริยสัจ 4(ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)และ ปฏิจสมุบาทหรือการทำงานของขันธ์ 5 ก่อนทุกสิ่งในโลก ซึ่งสัตว์โลกไม่มีทางรู้ได้เองถ้าพระพุทธเจ้าที่รู้ได้เองไม่สอน แต่มนุษย์รู้ตามได้และปฏิบัติด้วยตัวเองจนพ้นทุกข์ไม่ต้องเกิดตายอีกถึงนิพพานเช่นเดียวและเสมอกับพระพุทธองค์

อริยสัจ4 ย่อคือ ทุกสิ่งมีเกิด ดับ
ปฏิจสมุบาป: กรรมที่ทำให้ต้องไปเกิดอีกเกิดจาก ผัสสะหรือสัมผัส6(รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย และใจคิดอดีตที่จำได้(สัญญา) ใจคิดปรุงแต่งอนาคต(สังขาร). และใจ คิดสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ จากสัมผัสต่างๆ และการคิดต่างๆ
การลดการคิดต่อผัสสะให้น้อยลงจนไม่คิดจะทำให้ภพ/ชาติสั้นลงจนไม่มี
มรรควิธีที่ ลัด สั้น ตรง และมีอนิสงส์สูงสุดในปัจจุบันเพื่อการพ้นทุกข์ คือ สมาธิ ทุกระดับ ร่วมกับ การเห็น การเกิด ดับ ในสมาธิ

สมถสมาธิ
สมาธิ ระดับ 1. ละการคิดอกุศล
สมาธิ ระดับ 2 ละวิตก
สมาธิระดับ 3 ละวิจาร และ เกิดปริติ สุข
สมาธิระดับ 4 ละปริติ สุข จนเกิด เอตัคคตา จิตใจตั้งมั่น. 

หลังจากนั้นให้พิจารณาการเกิดดับ(วิปัสสนาสมาธิ)ของจืต(วิญญาณ) ทำบ่อยๆจนมากพอจนเกิดความเบื่อหน่ายในการยึดขันธ์ 5 ว่าเป็นของเราอีกต่อไป เกิดอาสวขยญาน หรือ ญานที่รู้ว่าตัวเองหลุดพ้นแล้ว

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ทำไมเรียนหรือไม่เรียนไม่สามารถรับประกันได้ว่าใครจะประสบความสำเร็จ 1. ถ้งดวงควรเช็คดวงแต่เป็นการยากที่จะหาหมอดูที่เก่งพอที่จะรู้ทุกเรื่องทำนายได้ทุกเรื่อง เพราะเรื่องดวงอาจเกี่ยวข้องกับกรรมซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับปุถุชนที่จะทำนายได้แม่นยำจริงๆ รายละเอียดตามข้อ 2 และบุคคลสามารถฝึกปฏิบัติธรรมจนอยู่เหนือดวงได้ จึงถือว่าอนิจจัง หรือ ไม่เที่ยง อย่างไรก็ตามมีหมอดูหลายท่านซึ่งต้องหาเอาเองทำนายได้ใกล้เคียงความจริงมากเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นเรื่องลี้ลับ มหัศจรรย์อยู่เป็นการบอกแผนที่ของกรรมเก่าให้กับปุถุชนโดยปุถุชนที่ยังไม่ได้ฌานสำหรับผู้ที่ได้ปฏิบัติธรรมมากแล้วจะไม่สนใจอนาคตของตนและอยู่กับปัจจุบันโดยการเจริญสมาธิอยู่เป็นประจำซึ่งเป็นบุญหนักที่มีอนานิสงส์สูงกว่า ทาน และ ศีล และให้ผลในปัจจุบัน การให้ผลในปัจจุบันทำให้ชืวิตเขาเปลี่ยนกรรมเก่าที่รอให้ผลยังไม่ให้ผล แต่บุญจากสมาธิให้ผลก่อน บางคนเจ็บป่วยหนักก็เบาลงได้ หรือถึงเวลาตายแล้วกลับยืดอายุได้ต่อเพราะการเจริญสมาธิ ถือว่าสมาธิเป็นธรรมโอสถรักษาได้ทุกโรคอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ก็อาจเป็นปัจจัตตังเวทิพตับโพ วิญญูหิติ : รู้ได้เฉพาะตน ต้องลองทำเอง และมี ศรัทธา และ ความเพียร มาก (ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา) ส่วนใหญ่เป็นพวกมีอินทรีย์ หรือ พละ 5 มาก (ศรัทธา ศีล สติ สมาธิ ปัญญา) 2. ถ้าเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมและการเวียนว่ายเกิดตายในสังสารวัฏตามพุทธศาสนาซึ่งถือว่าเริ่มเข้าใกล้สัมมาทิฏฐิแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่าปุถุชน และพุทธสาวกอย่าประมาณบุคคลในเรื่องกรรม เพราะแต่ละคนท่องเที่ยวในสังสารวัฏมานานามากแล้วนับเป็นหน่วยนับต่างๆได้ยาก มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะประเมินบุคคลได้ว่าคติต่อไปของแต่ละบุคคลจะเป็นอย่างไรด้วยพุทธานุภาพอันมีประมาณไม่ได้ของท่าน อย่างไรก็ตามปุถุชนที่สามารถเจริญสมาธิระดับที่ 4 ได้ จะได้ญาณทัศนะ ในการล่วงรู้อดีต อนาคตของบุคคลอื่นได้ และกรรมดีชั่วที่กำลังจะส่งผลได้ แต่อาจจะมองไม่สุดว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจมีกรรมที่หลงเหลือที่มองไม่เห็น ทำให้ทำนายผิดพลาดได้ เช่น ในครั้งพุทธกาล มีสาวกของพระพุทธเจ้าทำนายเพื่อน ภิกษุที่สึกออกไปว่าจะไม่กลับมาปฏิบัติธรรมอีก แต่พระพุทธเจ้ามองได้สุดกว่าและทำนายว่าเขาจะกลับมาบวชและบรรลุธรรมได้ก่อนสิ้นชีวิต ซึ่งเวลาต่อมาเป็นจริงตามพุทธทำนาย https://www.facebook.com/profile.php?id=100006189045005&fref=photo

ทำไมเรียนหรือไม่เรียนไม่สามารถรับประกันได้ว่าใครจะประสบความสำเร็จ

1.       ถ้าเชื่อเรื่องดวงควรเช็คดวงแต่เป็นการยากที่จะหาหมอดูที่เก่งพอที่จะรู้ทุกเรื่องทำนายได้ทุกเรื่อง เพราะเรื่องดวงอาจเกี่ยวข้องกับกรรมซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับปุถุชนที่จะทำนายได้แม่นยำจริงๆ รายละเอียดตามข้อ และบุคคลสามารถฝึกปฏิบัติธรรมจนอยู่เหนือดวงได้ จึงถือว่าอนิจจัง หรือ ไม่เที่ยง  อย่างไรก็ตามมีหมอดูหลายท่านซึ่งต้องหาเอาเองทำนายได้ใกล้เคียงความจริงมากเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นเรื่องลี้ลับ มหัศจรรย์อยู่เป็นการบอกแผนที่ของกรรมเก่าให้กับปุถุชนโดยปุถุชนที่ยังไม่ได้ฌานสำหรับผู้ที่ได้ปฏิบัติธรรมมากแล้วจะไม่สนใจอนาคตของตนและอยู่กับปัจจุบันโดยการเจริญสมาธิอยู่เป็นประจำซึ่งเป็นบุญหนักที่มีอนานิสงส์สูงกว่า ทาน และ ศีล และให้ผลในปัจจุบัน การให้ผลในปัจจุบันทำให้ชืวิตเขาเปลี่ยนกรรมเก่าที่รอให้ผลยังไม่ให้ผล แต่บุญจากสมาธิให้ผลก่อน บางคนเจ็บป่วยหนักก็เบาลงได้ หรือถึงเวลาตายแล้วกลับยืดอายุได้ต่อเพราะการเจริญสมาธิ ถือว่าสมาธิเป็นธรรมโอสถรักษาได้ทุกโรคอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ก็อาจเป็นปัจจัตตังเวทิพตับโพ วิญญูหิติ รู้ได้เฉพาะตน ต้องลองทำเอง และมี ศรัทธา และ ความเพียร มาก (ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา) ส่วนใหญ่เป็นพวกมีอินทรีย์ หรือ พละ มาก (ศรัทธา ศีล สติ สมาธิ ปัญญา)


2.      ถ้าเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมและการเวียนว่ายเกิดตายในสังสารวัฏตามพุทธศาสนาซึ่งถือว่าเริ่มเข้าใกล้สัมมาทิฏฐิแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่าปุถุชน และพุทธสาวกอย่าประมาณบุคคลในเรื่องกรรม เพราะแต่ละคนท่องเที่ยวในสังสารวัฏมานานามากแล้วนับเป็นหน่วยนับต่างๆได้ยาก มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะประเมินบุคคลได้ว่าคติต่อไปของแต่ละบุคคลจะเป็นอย่างไรด้วยพุทธานุภาพอันมีประมาณไม่ได้ของท่าน อย่างไรก็ตามปุถุชนที่สามารถเจริญสมาธิระดับที่ ได้ จะได้ญาณทัศนะ ในการล่วงรู้อดีต อนาคตของบุคคลอื่นได้  และกรรมดีชั่วที่กำลังจะส่งผลได้ แต่อาจจะมองไม่สุดว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจมีกรรมที่หลงเหลือที่มองไม่เห็น ทำให้ทำนายผิดพลาดได้ เช่น ในครั้งพุทธกาล มีสาวกของพระพุทธเจ้าทำนายเพื่อน ภิกษุที่สึกออกไปว่าจะไม่กลับมาปฏิบัติธรรมอีก แต่พระพุทธเจ้ามองได้สุดกว่าและทำนายว่าเขาจะกลับมาบวชและบรรลุธรรมได้ก่อนสิ้นชีวิต ซึ่งเวลาต่อมาเป็นจริงตามพุทธทำนาย

https://www.facebook.com/profile.php?id=100006189045005&fref=photo