วรโคตรนวางค์

วรโคตร แปลว่าประเสริฐ สูงสุด ไร้มลทิน ซึ่งให้คุณสูงกว่าอุจและมหาอุจหลายเท่า ดาวที่ได้ตำแหน่งนี้ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเสียเช่นประ นิจ พินทุบาทว์ กาลกิณี(ตามทักษา)อุบาทว์ โลกาวินาศ(ตามกาลโยค)เจ้าเรือนทุสถาณภพหรือแม้แต่ติดลูกพิษ(เช่นในราศีพฤษภและราศีกุมภ์)ดาวกลับให้คุณสูงมากอย่างอัศจรรย์ ไม่น่าจะเสีย 1.) วรโคตรนวางค์ คือ ดาวในดวงราศีจักร อยู่ตำแหน่งเดียวกับดาวในดวงนวางศ์จักร (เวลาทำนาย ต้องดูดาวในดวงราศีจักร์) วรโคตร ในราศีใด ในเรือนใด ก็ให้คุณในเรื่องนั้นครับ วรโคตร มาจากเรือนใด ราศีใด คุณที่ได้รับ มีสาเหตุมาจากเรื่องนั้น วรโคตร ในเรือนวินาสน์ ให้คุณด้าน การได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือ, ภยันอันตรายไม่กล้ำกลาย, รอดพ้นเรื่องร้ายกลายดี ฯ วรโคตร มาจากเรือนกัมมะ การงานที่ทำ มีผู้ช่วยเหลือส่งเสริมดี จะขอสปอนเซอร์จากใครก็ได้ง่าย มีผู้ให้การสนับสนุน ในเรื่องที่เกี่ยวกับงาน ผลงานเป็นที่น่ายินดี มาจากเรือนสหัชชะ พี่น้อง เพื่อนฝูง ให้การช่วยเหลือเกื้อกูลกันดี ไม่ว่ากำลังใจ หรือการเจราติดต่อใดๆ มักได้ผลสมหวัง อย่างไม่คาดหมาย ดาวเคราะห์ต่างๆเสวยวรโคตมนวางศ์ 4.ดาวพุธ เสวยวรโคตรมนวางศ์ เจ้าชาตาจะเป็นคนเฉลียวฉลาดมาก มีความสามารถในการโน้มน้าวจิตใจคน ทำให้คนประทับใจ พูดจาอ่อนโยน ชอบที่จะศึกษาโหราศาสตร์ 6.ดาวศุกร์เสวยวรโคตรมนวางศ์ เจ้าชาตาจะมีความสามารถเข้าใจและแยกแยะระหว่างข้อดีและข้อด้อยในปัญหาต่างๆ มีร่างกายสมส่วน มีความรู้ในโหราศาสตร์ ดาวเคราะห์เป็นวรโคตรนวางค์กุมลัคน์ ดาว ๑ กุมลัคน์ มีวิชาการดี มีเกียรติภูมิ ดาว ๒ กุมลัคน์ มีความสุข ใจสะอาด มีผู้อุปการะ ดาว ๓ กุมลัคน์ มั่นคง กิจการรุ่งโรจน์ ดาว ๔ กุมลัคน์ มีสมองดี ปัญญาปราดเปรื่อง รู้วิชาการหลายแขนง ดาว ๕ กุมลัคน์ มีสติปัญญาความคิดรอบคอบ จะได้เป็นใหญ่ ดาว ๖ กุมลัคน์ มีศิลปวิทยาการสูง ดาว ๗ กุมลัคน์ เป็นนายช่างใหญ่ ผลงานเด่น จากประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อดาวได้ตำแหน่งวรโครตนวางค์จะเป็นดาวที่ให้คุณมาก โดยต้องดูว่าดาวสถิตที่ภพใดและมาจากเรือนอะไร ก็จะให้คุณที่ภพนั้นเรือนนั้น. นอกจากนี้ ลัคนาที่ได้วรโครตนวางค์บอกว่าชีวิตของผู้นั้นโดยรวมจะดีมีอุปสรรคน้อยครับ 2.) วรโคตมนวางค์นั้น ใช้เป็นหนึ่งในการประเมินกำลังของดาวเคราะห์ว่ามีกำลังเข้มแข็งหรือไม่ ซึ่งความเข้มแข็งก็ยังไม่ได้รวมถึงให้คุณหรือให้โทษ บางครั้งเข้มแข็งในคุณ บางครั้งเข้มแข็งในโทษ เพราะ นวางค์นั้นเป็นตัวบอกคุณภาพกำลังของดาวเคราะห์ และ เป็นหนึ่งในการคำนวณกำลังของดาวเคราะห์ต่างๆ ในดวงชะตา 3.) การที่บอกว่าดาวเป็นประหรือนิจ ถ้าได้วรโคตมนวางค์แล้วจะฟื้น ก็ใช้เหตุผลเดียวกับข้อ 2 ว่าที่จะฟื้นนั้นฟื้นทางไหน ถ้าในดวงจักรราศีเป็นดาวร้าย แล้วเป็นนิจความร้ายนั้นก็ลดลง ส่วนมุมกลับเมื่อในจักรราศีเป็นดาวร้ายแต่ถูกลดความร้ายลงเนื่องจากเป็นนิจ แต่ในนวางค์ดันไปได้วรโคตมนวางค์ก็จะถูกบวกเพิ่มกำลังให้ฟื้นจากการเป็นนิจขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่ง ซึ่งพอกลับไปมองดวงจักรราศีมันจะแสดงให้เห็นว่าดาวดวงนั้นที่ว่าจะลดความร้ายลง มันกลับยังหลงเหลือความร้ายสอดใส้มาอีก อันจักรราศีคือต้นไม้ นวางค์นั้นเปรียบดั่งผล ดังนั้นทั้งสองอยู่บนต้นเดียวกันเพียงแต่ต่างมุมมอง และ ต่างในประเด็นย่อย การคำนวณกำลังดาวนั้นมีแยกไว้เป็นอย่างๆ เหมือนกับการให้คะแนนเป็นเปอร์เซนต์ เหมือนเป็นนิจก็พิจารณาว่าดาวดวงนั้นถูกหักไปเท่าไร พอมาดูในนวางค์ถูกบวกกลับมาเนื่องจากวรโคตมนวางค์อีกเท่าไร เมื่อรวมคะแนนต่างๆ เสร็จก็จะทราบได้ว่าดาวเคราะห์นั้นๆ มีกำลังเท่าไรแน่ และ มีกำลังที่ให้คุณ หรือ ให้โทษ เป็นการพิจารณาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เป็นประเด็นๆ ไป พยายามอย่านำมารวมกันว่าฟื้น ต้องพิจารณาก่อนว่าฟื้นเพราะอะไร ฟื้นมาได้แค่ไหน หรือแค่เพิ่งหายป่วย เป็นตัวอย่างที่ยกมาเล่าให้ฟัง ปล. การคำนวณกำลังดาวเคราะห์ มีมากกว่าการคำนวณกำลังจาก อุจ นิจ หรือ วรโคตมนวางค์ที่กล่าวมา ยังมีการโคจรปัดเหนือปัดใต้ การสถิตในเรือนต่าง การเกิดเคราะห์ยุทธ์ การเกิดดาวดับ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งมีกล่าวไว้ในษัฑพละศักดิ์กำลังดาวครับ