วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2561

ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง



ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง



ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง


ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง


ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง




ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง



ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง





ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง


รัฐนันท์ รถทอง

สนทนาธรรมวันเสาร์ที่_2018-03-17

สนทนาธรรมวันเสาร์ที่_2018-03-17

ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง



ดร.รัฐนันท์ รถทอง

ดร.รัฐนันท์ รถทอง


ดร.รัฐนันท์ รถทอง



ดร.รัฐนันท์ รถทอง



คุณลักษณะ(Attributes)

คุณลักษณะ(Attributes)

              สำหรับคุณลักษณะนั้นสืบเนื่องจาก Competency  ซึ่งประกอบด้วย    ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) และคุณลักษณะ ในด้านต่างๆ เช่น ทางพฤติกรรม (Attributes) ของบุคคล  ซึ่งจำเป็นต้องมีในการปฏิบัติงาน ตำแหน่ง หนึ่ง ๆ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ได้ผลงานตรงตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร
Self-concept :
แรงจูงใจหรือทัศนคติ (Motive/Attitude) แตเปนแรงขับภายใน หรืออุปนิสัย บทบาทที่แสดงต่อสังคม แรผลักดันเบื้องลึก ที่ทําใหบุคคลแสดงพฤติกรรมที่ตนมุงหวังไปสูสิ่งที่เปนเปาหมายของเขา ตัวอยาง การตองการความสําเร็จ เปนแรงจูงใจที่กอใหเกิดแนวคิดหรือทัศนคติที่ตองการ สรางผลงานที่ดีแตความสามารถในการทํางานใหสําเร็จไดตรงตามเวลาที่กําหนด ถือเปน“สมรรถนะ” ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของงานมากกว่า 80% มากกว่า ความรู้ และ ทักษะ ซึ่งมีผลต่องานเพียง 10-20 %[1]



วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561

ดุษฎีนิพนธ์ และ งานคุณภาพการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย





คุณวุฒิอาจารย์ประจำหลักสูตร อาจารย์ ดร.รัฐนันท์ รถทอง




อาจารย์ประจำหลักสูตร
ที่
ตำแหน่งวิชาการ
ชื่อ-สกุล
คุณวุฒิ
สาขาวิชา
สถาบัน
พ.ศ.
1
อาจารย์ ดร.
Dr.
รัฐนันท์ รถทอง
Rattanan Rodthong
ค.ด.
บริหารการศึกษา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2559



M.A.
Political and International Studies
University of New England, Australia
2555



รป.ม.
บริหารทั่วไป
ม.บูรพา
2552



วท.บ.
บริหารทั่วไป
รร.จปร.
2538


ฟอร์มเอกสารรายวิชา Blended Education




1.1  จุดประสงค์
เพื่อให้ 


1.2 วิธีดำเนินการศึกษา 





1.3 การวัดและประเมินผล (100%)
1.2.1 การเรียนแบบชั้นเรียนประเมินการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน และ การถามคำถามหรือแสดงความคิดเห็นของผู้เรียน (20%)        
1.2.2 การเรียนแบบ e-learning/Online Learning ประเมินระยะเวลาการเข้าเรียนทางออนไลน์ และการโต้แย้งในการถามตอบในห้องเรียนออนไลน์ (30%)
1.2.3 การประเมินจากข้อสอบ (50%)
เกณฑ์การให้คะแนนข้อสอบ
    ระดับ
ตัวชี้วัด
            คะแนน
       1
ผู้สอบเขียนแสดงข้อมูลที้ได้เรียนจากการบรรยายในชั้นเรียนและห้องเรียนออนไลน์

            30-39%
       2
ผู้สอบเขียนแสดงข้อมูลในข้อ 1 และแนวคิดสร้างสรรค์ เพิ่มเติม หรือทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ หรือแนวคิดใหม่ๆเชิงนวรรตกรรม
            40-50%

            1.2.4  หลังจากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกันและตัดเกรดในระบบอักษร F ถึง ตามระเบียบการวัดและประเมินผล

1.4 อาจารย์ประจำวิชา:  ดร. รัฐนันท์ รถทอง    


อาจารย์ประจำหลักสูตร
ที่
ตำแหน่งวิชาการ
ชื่อ-สกุล
คุณวุฒิ
สาขาวิชา
สถาบัน
พ.ศ.
1
อาจารย์ ดร.
Dr.
รัฐนันท์ รถทอง
Rattanan Rodthong
ค.ด.
บริหารการศึกษา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2559



M.A.
Political and International Studies
University of New England, Australia
2555



รป.ม.
บริหารทั่วไป
ม.บูรพา
2552



วท.บ.
บริหารทั่วไป
รร.จปร.
2538

            

หัวข้อร่างแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน(APSC) ภายหลังปี ๒๕๕๘ (๒๕๕๙-๒๕๖๓)
๑.     ภาพรวม ผลักดันการดำเนินการตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนฉบับใหม่ (๒๕๕๙ ๒๕๖๘) (กต.)
๒.     การบริหารจัดการชายแดน (สมช.)
๓.     การเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล (สมช.)
๔.     การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ (ตร.)
๕.     การต่อต้านการก่อการร้าย (สมช.)
๖.     เสริมสร้างความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน (ป.ป.ส.)
๗.     การเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและการทูตเชิงป้องกัน (กต.)
๘.     การเสริมสร้างศักยภาพในการปฏิบัติการทางทหารร่วมกันของอาเซียน (กห.)
๙.     การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (กต.)
๑๐. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล (กกต.)
๑๑. การสร้างความพร้อมของระบบราชการไทยเพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (กพร.)
๑๒. การดำเนินการเพื่อสนับสนุนเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเสาประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ยธ.)

๑๓. การดำเนินการด้านกฎหมาย (ยธ.)

หัวข้อร่างแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน(APSC) ภายหลังปี ๒๕๕๘ (๒๕๕๙-๒๕๖๓)

หัวข้อร่างแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน(APSC) ภายหลังปี ๒๕๕๘ (๒๕๕๙-๒๕๖๓)
๑.     1  ภาพรวม ผลักดันการดำเนินการตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนฉบับใหม่ (๒๕๕๙ ๒๕๖๘) (กต.)
๒.     2  การบริหารจัดการชายแดน (สมช.)
๓.     3 การเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล (สมช.)
๔.     4 การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ (ตร.)
๕.     5 การต่อต้านการก่อการร้าย (สมช.)
๖.    6  เสริมสร้างความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน (ป.ป.ส.)
๗.    7  การเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและการทูตเชิงป้องกัน (กต.)
๘.    8  การเสริมสร้างศักยภาพในการปฏิบัติการทางทหารร่วมกันของอาเซียน (กห.)
๙.     9 การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (กต.)
๑   10 การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล (กกต.)
๑   11 การสร้างความพร้อมของระบบราชการไทยเพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (กพร.)
๑   12  การดำเนินการเพื่อสนับสนุนเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเสาประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ยธ.)

๑    13 การดำเนินการด้านกฎหมาย (ยธ.)

การบริหารการศึกษาสำหรับบุคลากรประจำการ

การบริหารการศึกษาสำหรับบุคลากรประจำการ
1.การบริหารบุคคล 2. การบริหารวิชาการ
3.การบริหารงบประมาณ 4.การบริหารทั่วไป
ระดับของวัฒนธรรมองค์การ
        เอ็ดการ์ ชายน์  (Edgar Schein)  เสนอวัฒนธรรมองค์การมี 3 ระดับ คือ
                1. วัฒนธรรมทางกายภาพ (Artifacts) : วัฒนธรรมทางกายภาพที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งมองเห็นและสัมผัสได้ง่าย จับต้องได้ สามารถได้ยิน หรือรู้สึกได้ง่ายเมื่อเข้าไปในองค์การใดองค์การหนึ่ง เป็นระดับวัฒนธรรมพื้นผิวที่สุด  จำแนกได้ 3 ประเภทคือ
ประเภทกายภาพ : ศิลปะการออกแบบ Logo ตึก อาคาร/การตกแต่ง การแต่งตัวเครื่องแบบ วัตถุสิ่งของอุปกรณ์  เฟอร์นิเจอร์ในองค์การ การวาง Lay out เช่น ตึกจะไม่มีชั้น /ห้อง 13 ในอเมริกา
ประเภทพฤติกรรม : พิธีกรรมรับน้อง  รูปแบบการติดต่อสื่อสาร ประเพณี การให้รางวัลการลงโทษ เช่น อียิปต์ ถอดรองเท้าวางประกบกัน(ฝุ่นทราย)
ประเภทภาษา :  เรื่องเล่า/ประวัติศาสตร์ ชื่อ ชื่อเล่น ศัพท์เทคนิค คำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในหน่วยงาน เรื่องตลกในหน่วยงาน คำอธิบาย วีรชน ทรชน คำอุปมาอุปมัย คำขวัญ เช่น ของนิด้า คือ  B Of K, บูรณาการ , paradigm, change agent
                2. ค่านิยม        (Values) ค่านิยมเป็นสิ่งที่ตกลงร่วมกันในองค์การว่าอะไรดีอะไรไม่ดี อะไรควรทำหรืออะไรไม่ควรทำ เป็นการตีความ เป็นหลักการ เป้าหมายและมาตรฐานทางสังคม เป็นสิ่งที่บอกว่าสมาชิกสนใจใส่ใจเรื่องใด จะเป็นระดับที่ลึกกว่าระดับแรก
        ค่านิยมกับบรรทัดฐานหรือธรรมเนียมปฏิบัติ (Norm) จะต่างกัน ตรงที่ค่านิยมจะเกี่ยวข้องกับนามธรรม เช่น การมีวินัย  การตรงต่อเวลา...... ความซื่อสัตย์ ความดี ความโปร่งใส ความมีน้ำใจ........ แต่บรรทัดฐานจะเป็นรูปธรรม เช่น การเข้าคิว ถือเป็น Norm การไม่เปิดมือถือในห้องเรียนถือเป็น Norm แต่ Norm จะถูกกำหนดโดยค่านิยม ต้องสร้างค่านิยมก่อนมากำหนดธรรมเนียมปฏิบัติ เช่น การปิดมือถือในห้องเรียนเป็นบรรทัดฐานที่มาจากค่านิยมของการรู้จักเกรงใจคนอื่น  การใส่เครื่องแบบมาจากค่านิยมความเป็นระเบียบ
        การกำหนดค่านิยม สามารถทำได้ง่าย และการปฏิบัติยากต้องมีการกำหนด norm กำกับด้วยทุกครั้ง เช่น การตรงต่อเวลา กำกับด้วย เวลา 8.00 น. พร้อมนั่งโต๊ะทำงานทุกคน  ไม่ใช่มาเซ็นชื่อแปดโมง แต่ตัวไม่อยู่ทำงาน ไปทางข้าว ไปคุยกับคนอื่น
        ในองค์การจะมีคำว่า Core Values คือค่านิยมหลักขององค์การ ทุกคนปฏิบัติ เข้าใจตรงกัน และทำให้บรรลุพันธกิจหรือวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายได้ ซึ่งค่านิยมหลักจะต้องสอดคล้องกับธุรกิจหลักขององค์กร เช่น ธนาคารค่านิยมหลักคือความซื่อสัตย์ โรงพยาบาลค่านิยมหลักคือคุณภาพ ธุรกิจน้ำมันค่านิยมหลักขององค์การธุรกิจน้ำมันคือความปลอดภัยนอกเหนือไปจากค่านิยมอื่นๆคือคุณภาพน้ำมัน
เพราะฉะนั้น Core Values จะต้อง
        – สอดคล้องกับเป้าหมาย วัตถุประสงค์ขององค์การ
        - สอดคล้องกับพันธกิจ
สอดคล้องกับธุรกิจ
        แต่ละองค์การจะมีค่านิยมหลักไม่เหมือนกัน จะเป็นค่านิยมที่สนับสนุนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และจะไม่เปลี่ยนแปลงง่าย จะไม่ใช่ Maximize profit ในองค์การอมตะ
                3. ฐานคติ (Assumptions)  เป็นระดับวัฒนธรรมที่สมาชิกในองค์การแสดงออกโดยอัตโนมัติ แสดงออกโดยไม่รู้สึกตัว (Unconsciously) เป็นสิ่งที่คนในองค์กรคิดว่าถูกต้อง และต้องทำ สิ่งที่จะต้องทำมาเป็น Assumptions จะเป็นค่านิยมร่วมขององค์การหรือ Core Values
EX: บริษัท Shell  ที่มีค่านิยมเรื่องความปลอดภัยเป็นค่านิยมหลักขององค์การและคนในองค์การจะมีวัฒนธรรมเรื่องความปลอดภัยเป็นบรรทัดฐาน  เช่นมีงานสัมมนาขององค์การ พิธีกรจะกล่าวทักทายผู้ร่วมสัมมนาและพูดถึงประตูหนีไฟก่อนประเด็นอื่นๆ แสดงว่าความปลอดภัยเป็น Assumption ของพนักงานในบริษัท เป็นต้น
        สรุป :  ระดับที่ 1  จะเปลี่ยนง่ายที่สุด   ส่วนระดับ 3  เปลี่ยนยากที่สุด