สรุปการเสวนา “
After Yingluck: What’s Next for Thai Politics” เมื่อ ๖ ต.ค.๖๐
เวลา ๐๙๐๐-๑๑๐๐ ณ ห้องประชุม ๑๐๕
ตึกมหาจุฬาลงกรณ์ ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่
นายอนุทิน ชาญวีรกุล พรรคภูมิใจไทย นาย กรณ์ จาติกวณิช พรรคประชาธิปัตย์ นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา พรรคเพื่อไทย รศ.ดร.เจษฎ์
โทณะวณิก นักวิชาการ รศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักวิชาการ(ผู้ดำเนินรายการ) ผู้เข้ารับฟังเสวานา
ได้แก่ นักวิชาการ และสื่อมวลชน ประมาณ ๖๐-๗๐ คน สรุปได้ดังนี้
ผู้เข้าร่วมเสวนาฯเสนอให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว
โดยเฉพาะนายอนุทินฯ และ นายพงษ์เทพฯ นาย
กรณ์ฯ กล่าวว่าปัญหาที่ผ่านมาเกิดจากนักการเมืองทุจริตเป็นปัญหาสำคัญ
แต่ยอมรับรัฐบาลรัฐประหารปัจจุบันว่าให้ความสำคัญกับความรู้สึกของประชาชนมาก สำหรับ นายพงษ์เทพฯ
ได้ออกมาปกป้องอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ว่าไม่มีความผิด และพรรคเพื่อไทยได้สร้างผลงานที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติมามากแล้ว
เช่น โครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค พรรคเพื่อไทยไม่มีปัญหาเรื่องการขาดผู้นำพรรคฯเพราะมีนักการเมืองหลายคนสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคฯได้ สำหรับ รศ.ดร.เจษฎ์ฯ
กล่าวถึงประสบการณ์การร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ตกไปว่ามีอาจเป็นไปได้ที่รัฐบาลที่มาจากรัฐประหารอาจจะอยู่นานกว่าแผนที่กำหนดไว้เดิม
อย่างไรก็ตามคาดว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเกิน ๓๒๐
เสียง และสมาชิกวุฒิสภาที่
คสช.เป็นผู้เลือกจะเป็นกลุ่มที่กำหนดกลุ่มการเมืองที่จะจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
สรุปการเสวนาเรื่องอาชญากรรมไซเบอร์
การก่อการร้ายทางไซเบอร์และนัยด้านต่างประเทศ เมื่อ ๑๐ ต.ค.๖๐ เวลา ๑๐๐๐-๑๒๐๐ ณ ห้องนราธิป กระทรวงต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ของหน่วยงานไทยด้านความมั่นคงทางไซเบอร์
ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ Professor Dr. Henry Pontell
จาก John Jay College of Criminal Justice มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก
เป็นผู้บรรยายและผู้ดำเนินรายการ มีผู้เข้าร่วมฟังบรรยายและร่วมเสวานา ได้แก่
นักวิชาการ และ จนท.ทางด้านความมั่นคง ประมาณ ๕๐ คน สรุปได้ดังนี้
ผู้บรรยายได้บรรยายถึงภัยคุกคามจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ว่ามีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นมากในปัจจุบันและต้องการการตระหนักรู้ของทุกภาคส่วน
และความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ผู้บรรยายได้แนะนำศัพท์ใหม่ๆทางอาชญากรรมทางไซเบอร์
เช่น ผู้ก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ในปัจจุบันถูกเรียกว่า “White-Collar
Criminals” และแนะนำอาชญากรรมทางไซเบอร์รูปแบบใหม่ๆ เช่น “Man
in the Middle” คือการที่มิจฉาชีพทางไซเบอร์เข้ามาแทรกการสื่อสารทางไซเบอร์ของบุคคลตั้งแต่
๒ คนขึ้นไปแล้วใส่ข้อมูลเท็จเข้าไปเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นต้น นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมเสวนาเสนอว่าอาชญากรรมทางไซเบอร์นั้นถ้ากระทำจากต่างประเทศถือเป็นการล่วงล้ำอธิปไตยของชาติอื่น
และเป็นสิ่งที่ป้องกันหรือควบคุมได้ยาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น