วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

กุม เล็ง โยค ตรีโกณ

กุม – เล็ง – โยค – ตรีโกณ

อธิบายคำว่า กุม – เล็ง – โยค – ตรีโกณ

               การอ่านดวงชาตาท่านควรทราบความหมายของคำว่า กุม เล็ง โยค ตรีโกณ ครึ่งหนึ่งก่อน


               ๑.   กุม  คือดาวที่สถิตอยู่ราศีเดียวกัน เราเรียกว่าดาวกุมกัน ดาวจะส่งกำลังให้แก่กันถึง ๑๐๐% และคำว่า กุมลัคนาหรือร่วมลัคนา คือราศีที่ลัคนาสถิตร่วมกับดวงดาวจะเป็นดวงเดียวหรือหลายดวงก็ตาม เมื่อสถิตร่วมราศีเดียวกันแล้ว เราเรียกว่า ดาวกุมลัคนา หรือดาวร่วมลัคนา ส่งผลให้ลัคนา ๕๐%

               ๒.   เล็ง  คือ ดาวที่สถิตอยู่ในราศีตรงข้ามกัน คือ เป็น ๗ แก่กัน เราเรียกว่าดาวเล็งกัน ดาวที่อยู่ในลักษณะเช่นนี้ย่อมส่งกำลังให้แก่กันถึง ๑๐๐% และคำว่าดาวเล็งลัคนา คือดวงดาวซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับลัคนาในเรือนปัตนิ หากนับหนึ่งจากลัคนา จะเป็น ๗ แก่ลัคนา ดาวนั้นจะส่งผลให้ลัคนา ๗๕%

               ๓.   โยค  คือ นับจากดาวดวงหนึ่งไปหาดวงหนึ่งได้ ๓- ราศี เราเรียกว่าดาวนั้นเป็นโยคแก่กัน ดาวที่อยู่ในลัคนาเช่นนี้ย่อมส่งกำลังแก่กันได้ ๒๕% และคำว่าดาวโยคลัคนา คือนับจากลัคนาไป ๓ ราศี คือเรือนสหัชชะ พบดาวดวงใด เรียกว่าดาวโยคหน้าแก่ลัคนา และนับจากลัคนาไป ๑๑ ราศี คือ เรือนลาภะ พบดาวใด เรียกว่า ดาวโยคหลัง แก่ลัคนา ดาวที่โยคหน้าและโยคหลัง ส่งผลให้แก่ลัคนา ๑๐๐% ถ้าดาวใดหน้าดีในวัยหนุ่มสาว ถ้าโยคหลังดีในวัยกลางคนและวัยชรา

               ๔.   ตรีโกณ  คือ นับจากดาวดวงหนึ่งไปหาดวงหนึ่งได้ ๕- ราศี เราเรียกว่าดาวนั้นเป็นตรีโกณแก่กัน หรือเรียกว่าดาวร่วมธาตุราศีกัน ดาวที่อยู่ในลักษณะเช่นนี้ย่อมส่งกำลังให้แก่กัน ๕๐% ถ้านับจากลัคนาไป ๕-๙ ราศี พบดาวใด เราเรียกดาวนั้นว่าเป็นตรีโกณแก่ลัคนา หรือร่วมธาตุแก่ลัคนา ส่งผลให้แก่ลัคนา ๗๕%

               ก่อนท่านจะลงมือพยากรณ์ต้องตรวจสอบดวงชาตาที่ผูกขึ้นนั้นดูเสียก่อนว่า วางลัคนาวางจันทร์ถูกต้องดีแล้วหรือยัง ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าวางลัคนาและวางจันทร์ผิดไปเพียงราศีเดียวเท่านั้น ผลพยากรณ์จะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปหมด เมื่อพิจารณาดวงชาตาที่ผูกขึ้นเห็นว่าถูกต้องเรียบร้อยดีแล้ว ก็เริ่มพยากรณ์แต่ลัคนาเป็นต้นไป

               การพยากรณ์ให้ถือหลักดังนี้  คือ ดูดาวกุม-เล็ง-ตรีโกณ-โยคหน้า-โยคหลัง แก่ลัคนา ดาวที่เข้าลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่า “ดาวสัมพันธ์แก่ลัคนา” คือ ดาวส่งกระแสถึงลัคนา ส่วนดาวที่เป็น ๒. ๔. ๖. ๘. ๑๐ และ ๑๒ กับลัคนา เรียกว่า “ดาวไม่สัมพันธ์แก่ลัคนา” เพราะดาวส่งกระแสไม่ถึงลัคนา ถ้าเป็นดาวดีก็ไม่ให้คุณ ถ้าเป็นดาวร้ายก็ไม่ให้โทษแก่เจ้าชาตา ถ้าดาวที่ไม่สัมพันธ์กับลัคนานี้บังเอิญเป็นดาวเกษตร ก็เรียกว่าดาวเกษตรนั้นเสียใช้การไม่ได้เลย

               เป็นที่ทราบกันดีว่า ดวงชาตาเป็นรูปวงกลม มี ๓๖๐ องศา หรือ ๔ มุมฉาก มุมฉากหนึ่งๆ มี ๙๐ องศา ดาวที่เป็น ๓ กับลัคนา เราเรียกว่าโยคหน้า จึงทำมุม ๙๐ องศากับลัคนา ดาวที่เป็นตรีโกณ หรือร่วมธาตุกับลัคนา จึงทำมุม ๑๒๐ กับ ๒๔๐ องศา ดาวที่เล็งกับลัคนาทำมุม ๑๘๐ องศา และดาวที่โยคหลัง หรือเป็น ๑๑ แก่ลัคนา ทำมุม ๙๐ องศา กับลัคนาทางด้านหลัง ให้ถือหลักแบบนี้เป็นการพยากรณ์เป็นหลักตายตัว

               สำหรับการพิจารณาดวงชาตาจร ดาวที่จรมาทับลัคนา หรือดาวจรมากุมลัคนา หรือมาร่วมลัคนา ดาวนั้น จะส่งผลให้แก่ลัคนา ถึง ๑๐๐% ถ้าดาวมาโยคกับเล็ง ลัคนาจะส่งผลถึงลัคนา ๗๕% ถ้าดาวจรมาตรีโกณ หรือร่วมธาตุแก่ลัคนาจะส่งผลให้แก่ลัคนา ๕๐%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น